เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือเชลซี ยอมรับว่า เอสเตเวา คือคนที่ปลุกพลังในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ก่อนช่วยทีมเอาชนะวูล์ฟส์ 3-0 ขยับขึ้นไปรั้งอันดับสองของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
เชลซี ถูกแฟนบอลโห่ตอนหมดครึ่งแรก หลังครองเกมเหนือทีมบ๊วยของลีกแต่ยังยิงประตูไม่ได้ จนกระทั่ง มาโล กุสโต้ โขกประตูขึ้นนำให้เจ้าบ้านหลังเริ่มครึ่งหลังไปได้แค่ 6 นาที จากนั้นบรรยากาศในสนามก็เปลี่ยนทันทีเมื่อ เอสเตเวา ถูกส่งลงสนามและใช้เวลาไม่นานก็จ่ายให้ เจา เปโดร ยิงประตูที่สอง
ก่อนที่ เปโดร เนโต้ จะซัดประตูปิดกล่องจากลูกเปิดของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ แต่ถึงจะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่เจ้าหนู เอสเตเวา ได้รับเสียงปรบมือไม่น้อย
มาเรสก้า เผยหลังเกมว่า “ผมกังวลก่อนแข่งมากนะ เกมแบบนี้แหละที่อันตรายที่สุด ทุกคนมักคิดว่ามันง่าย ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่เลย”
“ผมเข้าใจแฟน ๆ ว่าทำไมครึ่งแรกพวกเขาถึงไม่พอใจเพราะเรายังยิงไม่ได้ แต่พอ เอสเตเวา ลงสนาม บรรยากาศมันเปลี่ยนเลย ทุกคนรู้สึกตื่นเต้น เพราะเขาเป็นนักเตะแบบที่แฟนบอลอยากดู”
แข้งวัย 18 ปีรายนี้ยังได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่ในฐานะตัวสำรอง เพื่อปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ มาเรสก้า เคยบอกว่า เอสเตเวา ยังบ่นเรื่องอากาศหนาวในลอนดอน และเขาก็เตือนลูกทีมว่ามันจะหนาวกว่านี้อีก
“ทุกคนเห็นได้ชัดว่าเขามีพรสวรรค์ เรากำลังช่วยให้เขาปรับตัวและค่อย ๆ ให้โอกาสลงสนามในเวลาที่เหมาะสม เขาเพิ่งย้ายมาจากบราซิล ยังต้องใช้เวลาอีกหน่อย แต่แน่นอนว่าในอนาคต เขาจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงแน่” มาเรสก้า กล่าวเสริม
ที่มา: soccersuck