“ปราสาทสายฟ้า” บุกยิงนำ เมลเบิร์น ซิตี้ ก่อนโดนเอาคืน 2 ลูกรวด พ่ายไป 1-2 ในศึก ACL ELITE เกมที่ 3
ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท 2025/26 ลีกสเตจ นัดที่ 3
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568
สนาม : เมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม
(ออสเตรเลีย) เมลเบิร์น ซิตี้ 2-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย)
ประตู : 0-1 โกรัน เคาซิช น.72, 1-1 เอลบาซาน ราชานี น.84, 2-1 แม็กซ์ คาปูโต น.90+7
การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท ลีกสเตจ โซนตะวันออก นัดที่ 3 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนหนึ่งเดียวของประเทศไทย ที่เวลานี้อยู่อันดับ 7 มี 3 คะแนน มีคิวออกไปเยือน สนามเมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม พบกับ เมลเบิร์น ซิตี้ ทีมแกร่งจากเอลีก ลีกสูงสุดของประเทศออสเตรเลีย ทีมอันดับสุดท้าย ที่ยังไม่มีคะแนน จากการลงสนาม 2 นัดเท่ากัน
นาทีที่ 4 เจ้าถิ่นมาได้ลุ้นทักทายก่อน แม็กซ์ คาปูโต ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ ทว่า นีล เอเธอร์ริดจ์ นายด่านปราสาทสายฟ้า อ่านเกมออกมาบล็อกทาง และเซฟช่วยทีมไว้ได้
นาทีที่ 11 เคอร์ติส กู๊ด พยายามครองบอลขึ้นเกม จังหวะจ่ายไปเตะติดบล็อก แม็กซ์ คาปูโต ทำให้บอลกลิ้งไปพื้นที่วางหน้ากรอบเขตโทษ โชคดีของปราสาทสายฟ้า นีล เอเธอร์ริดจ์ ยังไววิ่งมาเตะบอลทิ้งขึ้นหน้าไปได้ทันก่อนที่กองหน้า เมลเบิร์น ซิตี้ จะเข้าถึงบอล
นาทีที่ 29 ปราสาทสายฟ้า ได้ลุ้นทักทายครั้งแรก โกรัน เคาซิช รับบอลจากเพื่อนทางทางซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายบอลไปตลิดแนวรับเจ้าถิ่น แต่ โกรัน เคาซิช ยังไวจิ้มบอลไปให้ ปีเตอร์ ซูลจ์ ได้แต่งบอลเข้าเท้าซ้ายข้างถนัดแล้วยิงบอลบด ๆ กลิ้งออกหลังไป
นาทีที่ 41 ปราสาทสายฟ้า ขึ้นเกมทางขวา พรรษา เหมวิบูลย์ กระดกบอลขึ้นหน้าไปให้ ปีเตอร์ ซูลจ์ ได้เปิดบอลพุ่งติดไซด์ก้อยเข้าไปในกรอบ 6 หลา แพทริค บีช นายด่านเจ้าถิ่น ต้องออกแรงมาล้มตัวรับบอลไว้ได้
นาทีที่ 45+3 ปราสาทสายฟ้า ได้ฟรีคิกทางขวา ปีเตอร์ ซูลจ์ ยืนอยู่ที่บอลเดินเข้าไปเปิดบอลโค้งด้วยเท้าซ้ายเข้าไปในกรอบ 6 หลา โกรัน เคาซิช วิ่งไปเทกตัวขึ้นโหม่งบอลเบียดเสาซ้ายมือเข้าประตูไป แต่ทว่าห้องควบคุม VAR มีการแจ้งผู้ตัดสินมีการล้ำหน้า ซึ่งเป็น โกรัน เคาซิช ที่ขยับออกตัวไปก่อน ทำให้ ปราสาทสายฟ้า ยังไม่ได้ประตูออกนำ
จากนั้นไม่มีจังหวะลุ้นเพิ่ม จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังบุกไปเสมอกับ เมลเบิร์น ซิตี้ อยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 47 ปราสาทสายฟ้า มาได้ลุ้นเร็ว กิลเยร์เม บิสโซลี จับบอลได้หน้ากรอบเขตโทษก่อนจะแต่งบอลเข้าเท้าขวายิงบอลพุ่งตรงกรอบ แพทริค บีช นายด่านเจ้าถิ่นยังล้มตัวรับบอลไว้ได้
นาทีที่ 67 ปีเตอร์ ซูลจ์ ลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจยิงบอลเร็วบอลพุ่งเรียดไปตรงตัว แพทริค บีช รับไว้ได้
GOALLL!! นาทีที่ 72 ปราสาทสายฟ้า ได้เตะมุมทางซ้าย โรเบิร์ต ซูลจ์ เปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ เคอร์ติส กู๊ด ขึ้นโหม่งเช็ดบาง ๆ บอลไปถึง ศุภชัย ใจเด็ด จับบอลลั่น ก่อนจะเตะบอลกลับหลังไปตรง ปีเตอร์ ซูลจ์ พักอกแล้วยิงไปโดน แพทริค บีช นายด่านเจ้าถิ่นปัดมาเข้าทาง โกรัน เคาซิช พักบอลลอยก่อนจะยิงตูมเดียวเสยคานเข้าประตูไป ปราสาทสายฟ้า บุกออกนำ 1-0
GOALLL!! นาทีที่ 84 เจ้าถิ่นขึ้นเกมทางซ้าย อาซิซ เบฮิช ลากบอลขึ้นหน้าไปข้างกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายบอลยัดเข้าไปในกรอบ 6 หลา เอลบาซาน ราชานี ยิงตูมเดียวแบบไม่จับบอลพุ่งหายเข้าประตูไป เมลเบิร์น ซิตี้ ตามตีเสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1
นาทีที่ 90+4 เมลเบิร์น ซิตี้ ได้เตะมุมทางขวา อาซิซ เบฮิช เปิดบอลโค้งเข้าไปที่เสาแรก นีล เอเธอร์ริดจ์ ตบบอลพ้นอันตรายไว้ได้ ก่อนที่ผู้เล่นปราสาทสายฟ้า จะช่วยกันสกัดบอลทิ้ง
GOALLL!! นาทีที่ 90+7 นาธาเนียล แอตกินสัน ตัวสำรองเจ้าถิ่นได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายบอลทะลุช่องตัดแผงหลังเข้าไปหน้ากรอบ 6 หลา แม็กซ์ คาปูโต วิ่งเข้าไปล้มตัวแหย่เท้าจิ้มบอลกลิ้งเสียบโคนเสาซ้ายเข้าประตูไป เมลเบิร์น ซิตี แซงนำ 2-1
จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปพ่าย เมลเบิร์น ซิตี้ 1-2 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า ยังคงมีเพียง 3 คะแนน จากการลงสนาม 3 นัด
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
เมลเบิร์น ซิตี้ : แพทริค บีช (ผู้รักษาประตู), ฮาริสัน ชิลลิงตัน (นาธาเนียล แอตกินสัน น.58), เจอร์เมน เฟอร์เรย์ร่า, ซามูเอล ซูปราเยน (เลียม ออสก้า โบเนติก น.58), อาซิซ เบฮิช (C), ไค เทรวิน, เบ็คแฮม เบเกอร์ (เบนจามิน มาซซิโอ้ น.58), ทาเคชิ คานาโมริ (เอมิน ดูราโควิช น.80), แอนเดรียส คูน (เซน ชไรเบอร์ น.80), คาเวียน ราห์มานี (เอลบาซาน ราชานี น.67), แม็กซ์ คาปูโต
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : นีล เอเธอร์ริดจ์ (ผู้รักษาประตู), เคอร์ติส กู๊ด, เคนเน็ต ดูกอล (C), พรรษา เหมวิบูลย์, ฟิลิป สตอยโควิช (แซนดี วอลช์ น.80), คิงส์ลีย์ ชินด์เลอร์ (เชย์น แพตตีนามา น.66), โกรัน เคาซิช (ธีราทร บุญมาทัน น.90+10), ปีเตอร์ ซูลจ์, โรเบิร์ต ซูลจ์, ศุภชัย ใจเด็ด (อิลฮาน ฟานดี น.80), กิลเยร์เม บิสโซลี
ที่มา: soccersuck